“ทุ่งลาเวนเดอร์ใน Tihany (The lavender fields in Tihany)” มนต์เสน่ห์แห่งทุ่งดอกไม้อันน่าหลงใหล ด้วยความงดงามและกลิ่นหอมๆ ของดอกไม้ที่ลอยตลบอบอวน ทำให้สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้อย่างล้นหลาม การดื่มด่ำกับการเฉลิมฉลองที่สนุกสนานนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ส่วนตัวของวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ นอกจากจะได้เห็นความงดงามและกลิ่นหอมๆ ของดอกลาเวนเดอร์แล้ว ที่นี่ยังมีการเก็บเกี่ยวดอกลาเวนเดอร์ ซึ่งจะถูกนำไปแปรรูปเป็นน้ำมันหอมระเหยไว้คอยให้คุณได้ซื้อเป็นของฝากอีกด้วย..
“Museo de Arte de Puerto Rico”
พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนแคริบเบียน
หากย้อนเวลากลับไปรำลึกถึงผลงานระดับครูแห่งศิลปะหรือผลงานด้านประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ผลงานหรือจินตนาการแห่งความคิดของคนในสมัยอดีตนั้นทรงอิทธิพลทางด้านจิตใจมากจริงๆ ใครจะรู้ล่ะว่า เพียงแค่เราได้เห็นภาพๆ นึงที่ถูกวาดหรือขีดเขียนผ่านการเล่าเรื่องราวและการสร้างสรรค์ทางความคิดของศิลปิน จะทำให้เราเสียน้ำตาหรือบีบคั้นหัวใจจนต้องรู้สึกหมองเศร้าตาม วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ “Museo de Arte de Puerto Rico” พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนแคริบเบียน ซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะเปอร์โตริโกที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีผู้เยี่ยมชมหลั่งไหลมาจากทั่วโลกและเป็นที่รู้จักดีของเหล่าบรรดานักศิลปิน
สายชื่นชอบพิพิธภัณฑ์ต้องที่นี่เลยค่ะ.. “พิพิธภัณฑ์ Museo de Arte de Puerto Rico” ตั้งอยู่ในอาคารสไตล์นีโอคลาสสิคที่ดูโอ่อ่าภูมิฐาน และเป็นที่เก็บรักษาผลงานศิลปะ คุณจะเดินชมนิทรรศการต่างๆ ด้วยตัวเองหรือจะเข้าร่วมทัวร์นำชมเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่ได้เห็นอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นก็ได้ ซึ่งผู้นำชมคือนักประวัติศาสตร์ศิลปะที่ได้รับการอบรมมาโดยเฉพาะ และมีการบรรยายทั้งในภาษาอังกฤษและสเปน เชิญคุณเดินเที่ยวชมสิ่งจัดแสดงถาวรของพิพิธภัณฑ์เพื่อเสพงานศิลป์เก่าแก่จากทั่วเปอร์โตริโก ซึ่งนิทรรศการอันหลากหลายนั้นครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 จวบจนปัจจุบัน และไฮไลท์อีกอย่างนึงของที่นี่คือ สวนอันกว้างใหญ่ของพิพิธภัณฑ์ คุณจะพบกับพืชพรรณท้องถิ่นหลากหลาย เหมาะสำหรับมาปิกนิกหรือจะแค่มาพักผ่อนเพื่อรับไอแดดอุ่นๆ เรียกได้ว่าสาวก “พิพิธภัณฑ์” ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ..
“หุบเขาแห่งดวงจันทร์และทะเลทรายอาตากามา” (Valle de la Luna and Atacama Desert) มีลักษณะธรณีวิทยาเป็นหินผาและภูเขาทรายที่ถูกกัดเซาะด้วยน้ำกับแรงพัดของลม จึงทำให้เกิดสีและรูปร่างที่ชวนตื่นตาคล้ายกับพื้นผิวบนดวงจันทร์ โดยบางส่วนของพื้นที่ในหุบเขานี้จะถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวของเกลือที่ถูกพัดมาจากทะเลขั้วโลก ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินที่นี่นั้นราวกับภาพวาดที่เกิดมาจากดวงจันทร์ยามพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า เนินเขาและคราบการปกคลุมจากน้ำทะเลนั้นจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีชมพู ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สุดวิเศษแห่งหนึ่งของโลก บนที่ราบสูงของอเมริกาใต้มีความยาวกว่า 1,000 กิโลเมตร ซึ่งหิมะและลมจะนำพาเกลือมาจากคาบสมุทรแอนตาร์กติกา ส่งผลให้ปริมาณเกลือที่ตกค้างเกิดผลึกก่อตัวกับพื้นดิน ทำให้เกิดพื้นผิวที่มีลักษณะคล้ายกับพื้นผิวบนดวงจันทร์ที่มีชื่อว่า El Valle de la Luna...